✌️เทรนด์ใหม่ของคนวัยทำงานด้วยการสร้าง Growth mindset ให้ทีมเวิร์ค✌️

Growth mindset คือ กรอบความคิดแบบพัฒนาได้ เป็นหลักคิดที่เชื่อว่า คุณสมบัติพื้นฐาน ความรู้ ความสามารถเป็นสิ่งที่พัฒนาได้ด้วยความพยายามจากการฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง  ดังนั่น มาดูเทคนิคสร้างกรอบความคิดแบบพัฒนาได้ให้กับทีมงานกันว่ามีอะไรบ้าง 1.เริ่มอย่างช้า ๆ ค่อยเป็นค่อยไป งเริ่มจากการให้ทุกคนแชร์งานที่ตัวเองทำอยู่ให้เพื่อนในทีมฟัง ให้เล่าว่าแต่ละคนมีวิธีการทำงานอย่างไร ในแต่ละวันเจอปัญหาอะไรบ้าง การแชร์ข้อมูลการทำงานระหว่างกันจะช่วยให้พนักงานได้ทบทวนการทำงานของตัวเอง และเรียนรู้วิธีการทำงานของคนอื่นไปพร้อมกัน 2. สนใจที่ผลงาน มากกว่าชั่วโมงทำงาน แทนที่จะนับชั่วโมงการทำงานแบบเก่า ที่ในระหว่างเวลาทำงานต้องนั่งหน้าคอมทำงานเพียงอย่างเดียว ลองเปลี่ยนมาเป็นการวัดประสิทธิภาพการทำงานจากผลงานที่ได้จะดีกว่า กำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบ ปริมาณงาน เป้าหมายที่ต้องการและ  deadline วันส่งงานให้ชัดเจน แล้วให้พนักงานของคุณไปบริหารเวลาที่ใช้ทำงานเองโดยไม่เข้าไปก้าวก่ายโดยไม่จำเป็น 3.การทำงานที่โปร่งใสและเข้าถึงข้อมูลที่จำเป็นได้อย่างง่าย เปลี่ยนวิธีการทำงานเดิมที่หัวหน้าเป็นคนตัดสินใจ รู้ข้อมูลทั้งหมดคนเดียวและรู้ว่าใครกำลังทำงานอะไรอยู่ มาทำให้ทุกคนสามารถเห็นงานของคนอื่นในทีมได้ และย้ายข้อมูลที่จำเป็นในการทำงานมาไว้ส่วนกลางที่ทุกคนในทีมสามารถเข้าถึงข้อมูลเหล่านั้นได้โดยไม่ต้องขออนุญาต  วิธีนี้จะช่วยลดขั้นตอนไม่จำเป็น 4.สร้างนวัตกรรมการทำงานใหม่ ๆ   ลองฝึกให้พนักงานของคุณได้คิดค้นและพัฒนาวิธีการทำงานของตัวเองอยู่เสมอ ผ่านการให้โจทย์งานที่ยากเกินความสามารถเล็กน้อย  เพื่อให้พนักงานของคุณได้ก้าวออกจาก comfort zone ของตัวเอง หรือให้ไปลงเรียนหลักสูตรสร้างทักษะใหม่ รวมไปถึงเปิดรับสนับสนุนไอเดียใหม่ ๆ

✌️เทรนด์ใหม่ของคนวัยทำงานด้วยการสร้าง Growth mindset ให้ทีมเวิร์ค✌️

Growth mindset คือ กรอบความคิดแบบพัฒนาได้ เป็นหลักคิดที่เชื่อว่า คุณสมบัติพื้นฐาน ความรู้ ความสามารถเป็นสิ่งที่พัฒนาได้ด้วยความพยายามจากการฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง  ดังนั่น มาดูเทคนิคสร้างกรอบความคิดแบบพัฒนาได้ให้กับทีมงานกันว่ามีอะไรบ้าง 1.เริ่มอย่างช้า ๆ ค่อยเป็นค่อยไป งเริ่มจากการให้ทุกคนแชร์งานที่ตัวเองทำอยู่ให้เพื่อนในทีมฟัง ให้เล่าว่าแต่ละคนมีวิธีการทำงานอย่างไร ในแต่ละวันเจอปัญหาอะไรบ้าง การแชร์ข้อมูลการทำงานระหว่างกันจะช่วยให้พนักงานได้ทบทวนการทำงานของตัวเอง และเรียนรู้วิธีการทำงานของคนอื่นไปพร้อมกัน 2. สนใจที่ผลงาน มากกว่าชั่วโมงทำงาน แทนที่จะนับชั่วโมงการทำงานแบบเก่า ที่ในระหว่างเวลาทำงานต้องนั่งหน้าคอมทำงานเพียงอย่างเดียว ลองเปลี่ยนมาเป็นการวัดประสิทธิภาพการทำงานจากผลงานที่ได้จะดีกว่า กำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบ ปริมาณงาน เป้าหมายที่ต้องการและ  deadline วันส่งงานให้ชัดเจน แล้วให้พนักงานของคุณไปบริหารเวลาที่ใช้ทำงานเองโดยไม่เข้าไปก้าวก่ายโดยไม่จำเป็น 3.การทำงานที่โปร่งใสและเข้าถึงข้อมูลที่จำเป็นได้อย่างง่าย เปลี่ยนวิธีการทำงานเดิมที่หัวหน้าเป็นคนตัดสินใจ รู้ข้อมูลทั้งหมดคนเดียวและรู้ว่าใครกำลังทำงานอะไรอยู่ มาทำให้ทุกคนสามารถเห็นงานของคนอื่นในทีมได้ และย้ายข้อมูลที่จำเป็นในการทำงานมาไว้ส่วนกลางที่ทุกคนในทีมสามารถเข้าถึงข้อมูลเหล่านั้นได้โดยไม่ต้องขออนุญาต  วิธีนี้จะช่วยลดขั้นตอนไม่จำเป็น 4.สร้างนวัตกรรมการทำงานใหม่ ๆ   ลองฝึกให้พนักงานของคุณได้คิดค้นและพัฒนาวิธีการทำงานของตัวเองอยู่เสมอ ผ่านการให้โจทย์งานที่ยากเกินความสามารถเล็กน้อย  เพื่อให้พนักงานของคุณได้ก้าวออกจาก comfort zone ของตัวเอง หรือให้ไปลงเรียนหลักสูตรสร้างทักษะใหม่ รวมไปถึงเปิดรับสนับสนุนไอเดียใหม่ ๆ