วิธีที่ทำให้พนักงานมีความผูกพันต่อองค์กร

1. สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ดี : สร้างวัฒนธรรมที่สนับสนุนการทำงานทีมและการสร้างความสำเร็จร่วมกัน ภายในองค์กรควรมีค่านิยมที่ชัดเจนและความคุ้มค่าที่ต่อเนื่อง และส่งเสริมการทำงานร่วมกันและการส่งเสริมความเชื่อมั่นของพนักงานในองค์กร. 2. ให้ความรู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของทีม : สร้างความรู้สึกว่าพนักงานเป็นส่วนหนึ่งของทีมและวางแผนงานร่วมกัน การสร้างความเชื่อมั่นและความผูกพันอยู่ในทีมทำให้พนักงานรู้สึกว่าพวกเขามีบทบาทสำคัญและมีส่วนร่วมในการสร้างความสำเร็จขององค์กร 3. ให้การรับรู้ถึงผลงานของพนักงาน : การให้การตอบรับและการพิจารณาเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างความผูกพันของพนักงาน ให้ความสำคัญกับการรับรู้ความพยายามและผลงานที่ดีของพนักงาน และให้การพิจารณาที่เป็นธรรมและเชื่อถือได้ในการเลื่อนขั้นหรือการพัฒนาอาชีพ 4. สร้างความยุติธรรมในการทำงาน : สร้างสภาวะที่เป็นกลางและความยุติธรรมในการจัดการและการปฏิบัติงาน การจัดทำนโยบายและกระบวนการที่โปร่งใสและยุติธรรมช่วยสร้างความเชื่อมั่นในพนักงานและความผูกพันต่อองค์กร 5. สร้างสภาพแวดล้อมที่สร้างสรรค์ : สร้างสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนการเรียนรู้และการเติบโตของพนักงาน ให้พวกเขามีโอกาสพัฒนาทักษะใหม่ และให้พื้นที่สำหรับการสร้างและนำเสนอไอเดียใหม่ การสร้างสภาพแวดล้อมที่เปิดกว้างและส่งเสริมนวัตกรรมสามารถช่วยให้พนักงานรู้สึกถูกยอมรับและมีส่วนร่วมในการพัฒนาองค์กร 6. ให้โอกาสในการพัฒนาและการเติบโต : ให้พนักงานมีโอกาสเรียนรู้และพัฒนาทักษะใหม่ที่สอดคล้องกับงานของตน องค์กรสามารถให้การฝึกอบรม การสนับสนุนการศึกษาต่อ หรือการสร้างแผนพัฒนาส่วนตัวที่ช่วยให้พนักงานสามารถพัฒนาทักษะและความรู้ของตนเพื่อใช้ในงานได้เต็มประสิทธิภาพ 7. ให้โอกาสสำหรับความก้าวหน้า : ให้โอกาสให้พนักงานพัฒนาทักษะและความรู้ของตน ไม่ว่าจะเป็นโอกาสในการเป็นผู้นำหรือการเข้าร่วมโครงการพิเศษ การให้โอกาสให้พนักงานเติบโตและมีความก้าวหน้าส่งเสริมความผูกพันและความพึงพอใจของพนักงานต่อองค์กร การสร้างความผูกพันของพนักงานต่อองค์กรเป็นกระบวนการร่วมมือที่ควรมีการพิจารณาจากหลายปัจจัย องค์กรที่สร้างสภาพแวดล้อมที่สร้างสรรค์และสนับสนุนการเติบโตและพัฒนาของพนักงานจะมีโอกาสที่จะมีพนักงานที่ผูกพันและมีความภูมิใจในองค์กร หากต้องการสรรหาพนักงานที่ตรงใจ ติดต่อหาเรานะคะ หากสนใจสามารถติดต่อได้ที่ 098-2872450 094-9486465 LINE: Gen Z Manpower
10 วิธีทำงานเป็นทีม ใช้งานได้จริง

พอจะเห็นภาพและความสำคัญของการทำงานเป็นทีมไปบ้างแล้ว ทีนี้มาดูวิธีที่จะทำให้การทำงานเป็นทีมให้ประสบความสำเร็จกันบ้าง จะยากง่ายแค่ไหน ไปดูกัน! 1. ให้ความสำคัญกับทุกความเห็นของคนในทีม สิ่งหนึ่งที่ทำให้พนักงานรู้สึกมีคุณค่าต่อการทำงานเป็นทีม คือการที่สมาชิกในทีมหรือหัวหน้ารับฟังและทำความเข้าใจกับไอเดียที่นำเสนอไป แสดงให้เห็นถึงการเคารพความคิดของทุกคนอย่าเท่าเทียมกัน 2. เข้าใจถึงบทบาทและความรับผิดชอบของแต่ละคน การทำงานเป็นทีมจะประสบความสำเร็จได้นั้น ทุกคนในทีมต้องรู้ในหน้าที่ของตัวเองเสมอ รวมถึงเคารพในบทบาทของเพื่อนร่วมทีมคนอื่นเช่นกัน ไม่ก้าวก่ายกันแต่สามารถแนะนำด้วยความหวังดีและจริงใจต่อกัน 3. ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน การมีเป้าหมายปลายทางที่ชัดเจน จะช่วยให้การทำงานเป็นทีมมีประสิทธิภาพมากขึ้น เดินไปตามกรอบไม่ออกนอกทาง รู้ว่าต้องไปแนวไหนให้ไม่หลงทางจนเสียแผน 4. มีการสื่อสารกันอยู่เสมอ การสื่อสารนั้นหมายถึง การสื่อสารความคิด บอกเล่าปัญหา หรือแลกเปลี่ยนวิธีการทำงานหรือเครื่องมือต่าง ๆ ที่ช่วยให้การทำงานสะดวกขึ้น รวมไปถึงรับฟังกันให้มากที่สุด 5. ตัดสินใจร่วมกัน เริ่มด้วยการเปิดโอกาสให้ทุกคนในทีมได้แสดงความเห็น และตัดสินใจหาทางออกร่วมกัน หรือแม้กระทั่งเหตุการณ์ที่เน้นความฉับไวในการตัดสินใจที่ทำไปแล้ว คนที่ตัดสินใจก็ควรอธิบายถึงสาเหตุที่เลือกตัดสินใจไปแบบนั้นกับทีม 6. สร้างความสัมพันธ์และความไว้วางใจที่ดีต่อกัน สนับสนุนและให้กำลังใจเพื่อนร่วมทีมอยู่เสมอ เพื่อให้เกิดความสัมพันธ์อันดีต่อกัน มีบรรยากาศการทำงานที่ดี คนทำงานมีความสุข 7. ทำกิจกรรมนอกเหนือจากงานร่วมกัน เรียนรู้ตัวตนของเพื่อนร่วมทีมในมุมผ่อนคลายดูบ้าง ก็ถือเป็นกลยุทธ์ที่ดีในการทำงานเป็นทีม โดยจัดกิจกรรมเช่น กินข้าวเที่ยงร่วมกัน ไปร้องคาราโอเกะตอนเย็นหลังเลิกงาน 8. เคารพความแตกต่างของคนในทีม เคารพที่ว่าคือเคารพทั้งตัวตนและความคิด เพราะในสังคมปัจจุบัน เรื่องเพศ อายุ […]
10 วิธีสร้างความสุขในที่ทำงาน

ในส่วนของคนวัยทำงานสามารถลดความเครียดจากการทำงาน และสร้างความสุขง่ายๆรายวันให้แก่ตนเอง ด้วยคำแนะนำ 10 ประการ ดังนี้ 1. ทบทวนถึงสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน ชื่นชมข้อดีของตนเองและผู้อื่น พร้อมเริ่มต้นวันใหม่ด้วยความสุข 2. มีอารมณ์ขันและส่งยิ้มให้กันอยู่เสมอ 3. กล่าวคำขอบคุณให้เป็นนิสัย และขอโทษเมื่อทำผิด 4. ตั้งเป้าหมายถึงสิ่งที่จะทำให้ชีวิตมีความสุข และลงมือทำให้สำเร็จ 5. หยุดคิดเล็กคิดน้อย ยอมรับข้อบกพร่องของผู้อื่น 6. จัดสรรเวลาให้สมดุล ตามหลัก 8-8-8 คือทำงาน 8 ชั่วโมง เวลาที่เหลืออีก 2 ส่วนคือการนอนหลับและให้เวลากับครอบครัว 7. ใส่ใจสุขภาพ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยวันละ 30 นาที สัปดาห์ละ 3-5 วัน ช่วยคลายความเครียด นอนหลับดีขึ้น หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ ดื่มสุราและสารเสพติด 8. ออฟไลน์ออกจากโลกโซเชียล แล้วหันมาพูดคุย ทำกิจกรรมต่างๆร่วมกับคนใกล้ชิดและคนรอบข้าง 9. ทำงานอดิเรกที่ชอบหรือทดลองทำอะไรใหม่ๆ 10. ยึดหลักความพอเพียงในการดำเนินชีวิต พอใจในสิ่งที่ตัวเองมี ผลวิจัยยืนยันว่าคนทำงานที่มีความสุขจะเพิ่มผลผลิตมากกว่าคนทำงานที่ไม่มีความสุขถึงร้อยละ […]
ปัจจัยที่ก่อให้เกิดภาวะหมดไฟ

หากทนต่อไป…บั่นทอนสุขภาพจิตทุกวันและยังส่งผลต่อสุขภาพร่างกายได้ โทรม อ่อนเพลียเรื้อรัง เครียด วิตกกังวล จนไปถึงภาวะซึมเศร้าในวัยทำงานได้เลย 1. หน้าที่ไม่ชัดเจน โยกไปทำงานนั้นที ย้ายมาทำงานนี้ที รู้สึกไม่แฟร์ ได้รับงานหลายอย่างเกินหน้าที่ ไม่เหมาะสมกับเงินเดือน ไม่มีเป้าหมายการทำงานที่ชัดเจน ทำให้เกิดความเครียดจากความไม่แน่นอนของตัวงานที่ต้องรับผิดชอบ เป็นผลมาจากโครงสร้างบริษัทที่ไม่มั่นคง 2. เล่นพรรคเล่นพวกในที่ทำงาน เส้นสายเยอะ ทำงานหนักไปก็ไม่ได้อะไรตอบแทน ถูกแทรกแซงงานตลอด ทำดีไม่เคยชื่นชม ทำพลาดครั้งเดียวโดนยับ ถูกพวกทำงานเอาหน้าแย่งผลงานไปหมด ทำให้เสียความรู้สึก เครียด ไร้จุดมุ่งหมาย ทำงานไปวัน ๆ โดยไม่มีแรงจูงใจ ไร้โอกาสเติบโตในสายงาน 3. หัวหน้างานบ้าอำนาจ ปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อสุขภาพจิตในการทำงาน หากเจอหัวหน้าเคี่ยว ๆ จู้จี้จุกจิก จ้องจับผิดตลอดเวลา ไม่รับฟังความเห็น ไม่ปกป้องผลประโยชน์ของทีม มองลูกน้องเป็นเครื่องมือในการเลื่อนตำแหน่งเท่านั้น ไม่มีความเห็นอกเห็นใจ กดดันเก่ง แต่ตัวเองทำอะไรไม่เป็น สั่งอย่างเดียว เจอแบบนี้ใครไม่เครียดก็แย่แล้ว 4. การกลั่นแกล้งในที่ทำงาน การบูลลี่ในที่ทำงานถือเป็นเรื่องที่เจอได้บ่อย ๆ ทั้งการพูดแซว เล่นมุกไร้มารยาท ตลกลามก แซะ กัดจิก […]
กลับมาอีกครั้ง

โปร. Genz เปย์ไม่อั้น สำหรับลูกค้าเก่า เพียงติดต่อคุยรายละเอียด และตัดสินใจใช้บริการภายใน 7 วัน รับทันที่ ส่วนลด 10 % ลูกค้าใหม่ ไม่ต้องเสียใจ เพียงติดต่อคุยรายละเอียด และตัดสินใจใช้บริการภายใน 7 วัน รับทันที่ ส่วนลด 5 % วันนี้ – 31 ก.ค 66 หากสนใจสามารถติดต่อได้ที่ 098-2872450 094-9486465 LINE: @GenZmanpower หากต้องการสรรหาพนักงานที่ตรงใจ ติดต่อหาเรานะคะ
ลูกน้องมีหลายประเภท หัวหน้าควรรับมืออย่างไร??

ในขณะที่หลายๆคนมักจะพูดถึงการเป็นผู้นำ เจ้านาย หรือหัวหน้างาน ที่มักจะเต็มไปด้วยข้อเสียที่ต้องปรับปรุง แต่ในอีกมุมหนึ่งไม่ใช่แค่ลูกน้องหรอกที่อยากมีเจ้านายดีๆ อีกมุมหนึ่ง เจ้านายเองก็อยากมีลูกน้องที่น่ารัก ทำตามคำสั่ง พูดง่าย เข้าใจง่าย มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่แบบที่คนเป็นเจ้านายไม่ต้องมาปวดหัว เพราะฉะนั้นวันนี้เพื่อให้หัวหน้าทุกคน สามารถคุมลูกน้องได้อย่างอยู่หมัด เรามีเคล็ดลับการรับมือกับลูกน้องแต่ละประเภทมาฝากกัน 1. ลูกน้องจอมดื้อ ลูกน้องประเภทที่สั่งงานอะไรก็ยากเย็น ปกครองลำบาก เถียงคำไม่ตกฟาก พูดอะไปก็ไม่ฟัง ถึงฟังก้แอบต่อต้านในใจ แบบนี้มันน่าจะลบทิ้งจากกระดานจริงๆ แต่ถ้าลูกน้องคนนั้นฝีมือดีล่ะ? วิธีแก้ : พฤติกรรมที่เจ้านายหรือหัวหน้าทุกคนควรทำก็คือ ตั้งสติ ใจเย็น แล้วลองเปิดใจรับฟังความคิดเห็นของเขาให้มากที่สุด และอาจจะเสนองานให้เขาดูแลเองไปเลย 1 โปรเจคต์ โดยไม่ต้องเข้าไปก้าวก่ายกับวิธีการทำงาน มอบอิสระให้กับเขานั่นเอง 2. ลูกน้องที่อายุมากกว่า ผู้ใต้บังคับบัญชาที่อายุมากกว่า ทำให้คนเป็นลูกน้องอาจจะแข็งขืนกับหัวหน้าได้ ซึ่งลูกน้องประเภทนี้มักจะมีความมั่นใจสูง คิดว่าตัวเองมีประสบการณ์มากกว่า ทำให้หัวหน้าอาจจะปกครองได้ลำบากสักหน่อย วิธีแก้ : ทางที่ดีให้พยายามรับฟัง เปิดใจ และให้โอกาสเขาได้นำเสนอประสบการณ์ของเขา อาจจะมีคำพูดเป็นพิเศษเมื่อมีการมอบหมายหน้าที่ให้เขาทำ และดูอยู่ห่างๆ ว่าคุณจะช่วยซัพพอร์ตในการทำงานของเขาได้ยังไงบ้าง 3. ลูกน้องจอมขี้เกียจ มีเยอะเลยทีเดียว ลูกน้องที่วันๆ เอาแต่เม้ากับเพื่อนร่วมงาน ดูซีรีส์ […]