🚩แนะนำ เทคนิคการบริหารเวลาสำหรับหัวหน้างานกัน 🚩

🚩แนะนำ เทคนิคการบริหารเวลาสำหรับหัวหน้างานกัน 🚩 👉 การจดบันทึกการทำงานในรอบสัปดาห์ จะช่วยให้เห็นภาพรวมและช่วยในการจัดการกับงานต่าง ๆ ได้ดีขึ้น เพราะจะเห็นว่าคุณใช้เวลาไปกับอะไรมากน้อยแค่ไหน 👉 ในทุกๆ กิจกรรมที่ทำควรมีการกำหนดเวลาเสมอ เพราะงานที่ทำอยู่ไม่เสร็จเสียทีประเมินว่างานนั้นเริ่มเมื่อไร จบเมื่อไร และพยายามทำให้ได้ตามที่วางแผนเอาไว้ 👉 วางแผนการทำงาน อย่างน้อยครึ่งหนึ่งของเวลาทำงานที่มีทั้งหมด ควรให้กับสิ่งที่ก่อให้เกิดผลลัพธ์สูงสุด 👉 ควรจัดสรรเวลาสำหรับการถูกขัดจังหวะ เช่น การให้ลูกน้องเข้าพบเพื่อตามงาน หรือขอคำปรึกษาต่าง ๆ ในกรณีที่ไม่เร่งด่วน ก็ให้ลูกน้องเข้าพบได้ตามเวลาที่คุณกำหนด 👉 ควรจัดสรรเวลาสำหรับการเคลียร์งานของตนเอง เมื่อกำหนดเวลาในการเข้าพบได้ คุณก็จะมีช่วงเวลาสำหรับจัดการงานของตัวเองให้เสร็จด้วยเช่นกัน 👉 ควรปิดช่องทางการสื่อสารที่ไม่จำเป็น เช่น ปิดแชท ปิดสื่อออนไลน์ต่าง ๆ ยังไม่ต้องรีบตอบอีเมลที่ไม่เร่งด่วน ไม่รับสายที่ไม่เร่งด่วน เพื่อจดจ่ออยู่กับงานในช่วงเวลาที่คุณต้องเร่งงานให้เสร็จ 👉 ช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดของวันคือก่อนเริ่มงาน คุณควรใช้เวลา 30 นาทีแรกของการทำงานในแต่ละวันเพื่อวางแผนการทำงานในวันนั้น ๆ ไม่ควรเริ่มงานโดยที่ไม่ได้วางแผนเด็ดขาด 👉 ให้คิดก่อนลงมือทำงานใด ๆ ก็ตามว่า อยากให้งานชิ้นนั่นออกมาเป็นอย่างไร และเมื่อทำเสร็จแล้วให้ประเมินว่าตรงตามที่ได้คิดเอาไว้หรือไม่ 😊😊

Perfectionism “มนุษย์เป๊ะเว่อร์”มีประโยชน์กับองค์กรอย่างไร มาดูกัน

Perfectionism “มนุษย์เป๊ะเว่อร์”มีประโยชน์กับองค์กรอย่างไร มาดูกัน1.มีผลงานที่ยอดเยี่ยม คนที่เป็น Perfectionist ทั้งหลายมักจะเป็นคนที่ตั้งเป้าหมายสูง มีความมุ่งมั่นอย่างมากที่จะทำให้สำเร็จ และก็มักจะสำเร็จออกมาเป็นอย่างดีซะด้วย2.งานเสร็จทันเวลาที่กำหนด คนที่เป็น Perfectionist มักมาพร้อมความรับผิดชอบสูงมาก Deadline คือ Deadline เมื่อถึงเวลางานต้องเสร็จ3.สร้างสรรค์นวัตกรรมชั้นยอด คนที่มีลักษณะ Perfectionism จะสามารถสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่สามารถเปลี่ยนโลก หรือเปลี่ยนองค์กรไปเลยก็ได้ เพราะพวกเขาเหล่านี้จะมีโฟกัสสูงมาก ตั้งใจทำอะไรแล้วทำจริงแบบกัดไม่ปล่อย4.เป็นผู้นำชั้นดี นอกจากจะมีมาตรฐานสูงแล้ว Perfectionist ยังจะเป็นพวกนักพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง เพราะชอบกำหนดเป้าหมายแล้วต้องทำให้ได้ เมื่อสำเร็จแล้วก็จะกำหนดเป้าหมายต่อไป5.บุคลิกดี “เป๊ะ” ทุกสถานการณ์ เพราะว่าเป็นคนมีวินัยและมาตรฐานสูง ชาว Perfectionist เลยมักไม่ค่อยปล่อยตัวให้ดูไม่ดี เรียกได้ว่าเสื้อผ้าหน้าผมต้องเป๊ะอยู่เสมอ บวกกับบุคลิกภาพที่ดูมั่นใจแล้ว สิ่งเหล่านี้ล้วนช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กรเป็นอย่างมาก

Social Media กับข้อควรระวังในที่ทำงาน

Social Media กับข้อควรระวังในที่ทำงาน1.บ่นเรื่องที่ทำงาน หลายคนใช้พื้นที่ Social Media เพื่อระบายอารมณ์ ปลดปล่อยความเครียดความกดดันจากในที่ทำงาน แต่บางคนคึกคะนองจนถึงขั้นนินทาเจ้านาย เปิดเผยเงินเดือนหรือข้อมูลสำคัญของบริษัท เป็นการกระทำที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง2.โพสต์ข้อความหมิ่นประมาท การโพสต์ข้อความหมิ่นประมาท ดูหมิ่นเหยียดหยาม นอกจากจะสร้างความเสียหายให้ผู้อื่นแล้ว อาจเข้าข่ายผิดกฏหมายด้วย พฤติกรรมลักษณะนี้เกิดขึ้นหลายต่อหลายครั้ง ที่ Social Media เปลี่ยนชีวิตคนธรรมดาเป็นคนที่สังคมจับจ้องและรุมประนาม เป็นข้อควรระวังที่ต้องระวังในโลก Social Media3.เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของผู้อื่น การเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นเบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่ วันเดือนปีเกิด และอีกมากมาย เป็นสิ่งที่ไม่ควรเปิดเผยในโลก Social เพราะเสี่ยงต่อการถูกขโมยอัตลักษณ์บุคคล (Identity Theft)4.โพสต์ภาพวาบหวิว อนาจาร ถึงแม้คุณจะไม่ใช่ดาราหรือเซเล็บ การโพสต์ภาพวาบหวิวจนเกินไปก็เป็นสิ่งไม่สมควร หากมีคนไม่หวังดีบันทึกภาพเหล่านั้นไว้ ต่อให้เราลบ ภาพก็ยังคงอยู่ ในอนาคตคุณอาจโดนกลั่นแกล้งหรือนำภาพมาประจานบน Socialซึ่งส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของหน้าที่การงาน5.แชร์ข่าวปลอม ปล่อยข่าวลือ เมื่อโซเชียลมีเดียกลายเป็นสื่อกระแสหลักที่ใครๆ ก็เข้าถึงได้ง่าย จึงถูกใช้เป็นเครื่องมือของผู้ไม่หวังดีกุข่าวลือเพราะฉะนั้นเวลาเกิดดราม่าใน Social อย่าเพิ่งรีบแชร์ ควรฟังความเห็นหลายๆ มุมก่อน เพราะเราอาจกลายเป็นกระบอกเสียงกระจายข่าวปลอมโดยไม่รู้ตัว

วิธีป้องกันและรับมือการ Bully ในที่ทำงาน

วิธีป้องกันและรับมือการ Bully ในที่ทำงาน1.นิ่งเข้าไว้ หากเจอพวกชอบนินทา หรือเอาจุดด้อยมาล้อเป็นเรื่องขำขัน ก็อย่าใจร้อนตอบโต้ด้วยความโกรธกลับไป ตั้งสติไว้ก่อน เพราะยิ่งคุณโกรธมากเท่าไหร่ พวกขี้แกล้งก็จะยิ่งได้ใจที่ยั่วอารมณ์คุณได้2.เปิดใจคุยกัน ถ้าเล่นบทพระเอกนางเอกแล้ว สถานการณ์ก็ยังไม่ดีขึ้น ไม่มีทีท่าว่าเขาจะหยุดสักที ก็ถึงเวลาที่ต้องหันหน้าคุยกัน เปิดใจคุยกันตรงๆ ไปเลยว่าสาเหตุคืออะไร ขีดเส้นให้ชัดว่าอย่าก้าวล่วงความเป็นส่วนตัวที่นอกเหนือจากงาน3.เก็บหลักฐานไว้บ้าง คนที่สนุกกับการ Bully คนอื่น ลึกๆ แล้วขาดความมั่นใจในตัวเอง เห็นคนอื่นดีกว่าไม่ได้ จะกล้าก็เฉพาะอยู่ต่อหน้าเราเท่านั้น ในกรณีที่โดนกลั่นแกล้งเรื่องงาน อย่าปล่อยให้ตัวเองเป็นฝ่ายถูกกระทำอย่างเดียว พยายามทำงานให้รอบคอบที่สุดและหมั่นอัปเดตให้เพื่อนร่วมงานและหัวหน้ารู้ว่าเราต้องรับผิดชอบงานอะไรบ้าง4.ระบายออกมาซะ อย่าแบกรับปัญหาไว้คนเดียว เพราะลำพังตัวเราอาจรับมือไม่ไหว ลองปรึกษาหัวหน้า เพื่อนร่วมงาน หรือฝ่าย HR เพื่อเล่าถึงปัญหาและขอคำแนะนำในการปฏิบัติตัว แล้วคนทำผิดก็ต้องได้รับโทษ