มาสร้างแรงบันดาลใจ เติมเชื้อไฟให้การทำงานกันเถอะ

ชีวิตการทำงานของแต่ละคนนั้น เรียกได้ว่าต้องผ่านร้อนผ่านหนาว กว่าจะเดินทางถึงเป้าหมายของความสำเร็จในแต่ละขั้น วันนี้เรามา เพื่อเติมเต็ม attitude ดี ๆ เป็นพลังด้านบวกที่จะสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ ให้เกิดขึ้นกันเถอะ ที่สุด คนทำงานทุกคนต้อง strong strong เข้าไว้ สร้างภูมิคุ้มกันในการทำงาน เพิ่มพูนประสบการณ์และความแข็งแกร่งให้มากพอ แต่หากต้องการพนักงานที่เก่ง ตรงใจ ให้เราช่วยคุณสิคะ ขอบคุณแหล่งที่มา : https://th.jobsdb.com/ หากสนใจสามารถติดต่อได้ที่ 098-2872450 094-9486465 LINE: @GenZmanpower
แนะนำ 5 วิธีแก้ปัญหาพนักงานมาสายที่ใช้ได้จริง

การบริหารเวลาอย่างเหมาะสม ทำให้ทุกการทำงานของคุณตรงต่อเวลา 1. กำหนดเวลาเข้าออกงานห้แน่ชัดเจน บางองค์กรอาจจะไม่ได้มีการกำหนดแวลาเข้าออกให้แน่ชัด และถือว่าบางอย่างอาจจะพออะลุ่มอะล่วยกันได้ แต่การกำหนดนโยบายที่ชัดเจนจะช่วยให้คุณลดเวลาในการจัดการเรื่องพวกนีไปได้มาก 2. ให้ความใส่ใจกับพฤติกรรมในช่วงทดลองงาน ในระยะเวลาทดลองงาน 3 เดือนเป็นเวลาที่มากเพียงพอที่คุณจะได้เรียนรู้ถึงพฤติกรรมโดยทั่วไปของพนักงานคนนึง 3. หาระบบมาจัดการ track เวลาเข้าออกงาน ลองหาโปรแกรมจำพวก HR และเครื่องสแกนใบหน้า หรือลายนิ้วมือมาใช้ร่วมกันดู นอกจากจะเชื่อได้ถึงความถูกต้องแล้ว การเรียกดูเวลาทำงานย้อนหลังก็ทำได้ง่ายอีกด้วย 4. ตักเตือนทันทีที่เห็นว่าพนักงานมาสาย การพูดคุยเพื่อรับรู้ถึงปัญหาของพนักงานที่มาสายทันทีเพื่อไม่ให้ปัญหาลุกลามบานปลายนั่น ทำให้พนักงานเข้าใจว่าเวลาที่ควรพร้อมสำหรับทำงานคือเวลาเข้างาน และหาทางออกของปัญหาร่วมกัน 5. มีการจัดการคนที่มาสายอย่างจริงจัง ถึงเวลาที่ต้องใช้ไม้แข็งในการจัดการโดยการออกใบเตือนเพื่อให้รู้ว่าการมาสายเป็นพฤติกรรมที่ HR จะไม่ปล่อยไว้ และจัดการตามนโยบายบริษัทที่คุณได้ประกาศไว้อย่างจริงจังต่อไป เรื่อง มาสาย กับการทำงานเป็นเรื่องที่หลายๆคนให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก แต่หากคุณต้องการพนักงานที่ตรงต่อเวลา และมีคุณภาพ ให้ Genz Manpower ช่วยคุณนะคะ อ่านต่อที่ : https://genzmanpower.com/ ขอบคุณแหล่งที่มา : เพจ HR Thailand หากสนใจสามารถติดต่อได้ที่ 098-2872450 094-9486465 LINE: @GenZmanpower
5 วิธีแก้อาการ Burnout Syndrome ภาวะสุดฮิตของคนวัยทำงาน

Burnout Syndrome หรือ “ภาวะหมดไฟในการทำงาน” คือ ภาวะที่คนทำงานรู้สึกเหนื่อยล้า ทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ จากการทำงาน จนส่งผลให้เกิดอารมณ์และความรู้สึกเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย เหนื่อย หมดแรง ขาดแรงบันดาลใจในการทำงาน ลองมาดู 5 วิธีแก้อาการ Burnout กัน พักผ่อน กลับมาดูแลร่างกายให้ดี เริ่มจากการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ทานอาหารที่มีประโยชน์ พยายามเลี่ยงสิ่งเสพติด ไม่ว่าจะเป็น เหล้า บุหรี่ หรือว่ากาแฟ อาจจะลองลาพักผ่อนเป็นช่วยสั้น ๆ เพื่อให้ร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ของคุณได้รีเฟรช จัดระเบียบชีวิตให้มีคุณภาพ ลองจัดลำดับความสำคัญของงานและเวลาในการใช้ชีวิตและทำงานของคุณใหม่ เลือกโฟกัสงานตามความสำคัญ จัดตารางเวลาในชีวิตประจำวันให้ชัดเจน ลดการใช้มือถือ แท็ปเลต และหาทางผ่อนคลายด้วยวิธีอื่น ลดการเล่นมือถือและใช้โซเชียลมีเดีย อย่าง เฟซบุ๊ค หรือ อินสตาแกรม ออนไลน์ให้น้อยลง และลองหาวิธีผ่อนคลายทางอื่น เช่น อ่านหนังสือ ดูหนัง ฟังเพลง ออกกำลังกาย ปลูกต้นไม้ ปรับทัศนคติในการทำงาน เรียนรู้ความสามารถของตัวเอง สังเกตและกลับมาทบทวนว่าคุณมีความสามารถในการทำงานอย่างไร […]
วิธีป้องกันและรับมือการ Bully ในที่ทำงาน

การกลั่นแกล้งในสถานที่ทำงาน แสดงออกมาได้หลายรูปแบบทั้งต่อหน้าและลับหลัง เราจะรับมือปัญหานี้อย่างไร มาดูกัน 1. นิ่งเข้าไว้ หากเจอพวกชอบนินทา หรือเอาจุดด้อยมาล้อเป็นเรื่องขำขัน ก็อย่าใจร้อนตอบโต้ด้วยความโกรธกลับไป ตั้งสติไว้ก่อน เพราะยิ่งคุณโกรธมากเท่าไหร่ พวกขี้แกล้งก็จะยิ่งได้ใจที่ยั่วอารมณ์คุณได้ 2. เปิดใจคุยกัน ถ้าเล่นบทพระเอกนางเอกแล้ว สถานการณ์ก็ยังไม่ดีขึ้น ไม่มีทีท่าว่าเขาจะหยุดสักที ก็ถึงเวลาที่ต้องหันหน้าคุยกัน เปิดใจคุยกันตรงๆ ไปเลยว่าสาเหตุคืออะไร ขีดเส้นให้ชัดว่าอย่าก้าวล่วงความเป็นส่วนตัวที่นอกเหนือจากงาน 3. เก็บหลักฐานไว้บ้าง คนที่สนุกกับการ Bully คนอื่น ลึกๆ แล้วขาดความมั่นใจในตัวเอง เห็นคนอื่นดีกว่าไม่ได้ จะกล้าก็เฉพาะอยู่ต่อหน้าเราเท่านั้น ในกรณีที่โดนกลั่นแกล้งเรื่องงาน อย่าปล่อยให้ตัวเองเป็นฝ่ายถูกกระทำอย่างเดียว พยายามทำงานให้รอบคอบที่สุดและหมั่นอัปเดตให้เพื่อนร่วมงานและหัวหน้ารู้ว่าเราต้องรับผิดชอบงานอะไรบ้าง 4. ระบายออกมาซะ อย่าแบกรับปัญหาไว้คนเดียว เพราะลำพังตัวเราอาจรับมือไม่ไหว ลองปรึกษาหัวหน้า เพื่อนร่วมงาน หรือฝ่าย HR เพื่อเล่าถึงปัญหาและขอคำแนะนำในการปฏิบัติตัว แล้วคนทำผิดก็ต้องได้รับโทษ อย่าลืมว่านี่ไม่ใช่แค่เรื่องของคนแกล้งและคนถูกแกล้งเท่านั้น แต่เป็นหน้าที่ของทุกคนในองค์กรที่ควรช่วยกันสอดส่องพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมและวัฒนธรรมองค์กรที่ดี แต่หากต้องการพนักงานที่ทำงานเก่ง มีคุณภาพ ให้เราช่วยคุณสิคะ อ่านต่อที่ : https://genzmanpower.com/ หากสนใจสามารถติดต่อได้ที่ 098-2872450 094-9486465 LINE: […]
เมื่อออฟฟิศกลายเป็นตลาดสด วิธีหยุดคนพูดมากในที่ทำงานแบบเนียน ๆ

ในที่ทำงานถือเป็นสถานที่ที่มีคนรวมกันตัวอยู่มากๆ สังคมหนึ่ง แน่นอนว่าก็ต้องมีคนหลากประเภทหลายนิสัยปะปนกันไปอยู่แล้ว วันนี้เราเลยจะมาแนะนำวิธีรับมือกับมนุษย์พูดมากประจำออฟฟิศกัน ว่าควรทำยังไงดี ความเกรงใจเป็นสมบัติของผู้ดี ประโยคนี้ถือเป็นประโยคคลาสสิคที่ใช้ได้เสมอ แต่หากต้องการพนักงานที่มีคุณภาพ ทำงานเก่ง และตรงจใจ ให้ Genz Manpower ช่วนคุณสิคะ ขอบคุณแหล่งที่มา : https://th.jobsdb.com หากสนใจสามารถติดต่อได้ที่ 098-2872450 094-9486465 LINE: @GenZmanpower
เหตุผล…ทำไมเราถึงควรมีเพื่อนสนิทในที่ทำงาน

บางทีแค่งานก็เครียดมากแล้ว ถ้าเราไม่มีเพื่อน ไม่มีคนให้คุยคลายเครียด ก็คงยิ่งปวดหัวไปกันใหญ่ ซึ่งจริงๆ แล้วการมีเพื่อนสนิทในที่ทำงานก็ไม่ใช่เรื่องผิดแถมยังมีหลายข้อดีอีกด้วย เราลองมาดูกันว่ามีข้อดีอะไรบ้าง เพื่อนสนิทที่ทำงานคือแรงกระตุ้นให้เราอยากทำงานมากขึ้น – หลายครั้งที่การมาทำงานแต่ละวันเป็นเรื่องที่เหนื่อยล้ามาก บางทีถ้าไม่มีอะไรดึงดูดเราก็รู้สึกว่าวันๆ นั้นเป็นวันที่ธรรมดา ไม่น่าทำงาน แต่หากเรามีเพื่อนสนิท มันก็เหมือนการไปโรงเรียนที่เรารู้สึกอยากไปเจอเพื่อน อยากไปสานสัมพันธ์กับเพื่อนๆ การทำงานก็เช่นกัน การมีเพื่อนจะช่วยให้เราอยากมาทำงานมากขึ้นนั่นเอง เพื่อนสนิทสามารถช่วยเหลือ ให้คำปรึกษาเราได้ – นอกเหนือจากการช่วยเหลือในเรื่องงาน ยังมีการช่วยเหลือในเรื่องของการรับฟังปัญหา การทำให้เราอารมณ์เย็นขึ้นเมื่อเจอสิ่งที่เราไม่ชอบ เพราะเพื่อนที่สนิทกับเราจริงๆ ก็จะสามารถรับฟังปัญหาและอยู่ตรงนั้นเพื่อคอยช่วยเหลือเราได้ เพื่อนสนิทจะทำให้การทำงานเป็นทีมดีขึ้น – เมื่อเรารู้ใจกันมากขึ้น สนิทกันมากขึ้น การทำงานเป็นทีมก็จะราบรื่นยิ่งขึ้นเพราะการสื่อสารก็จะเป็นไปได้ง่าย อีกทั้งยิ่งสนิทกันยิ่งเข้าใจกัน งานก็จะออกมาได้แบบที่เรารู้ใจซึ่งกันและกัน เพื่อนสนิทจะอยู่กับเราไม่ว่ายามว่างหรือยามยุ่ง – บางทีวันๆ นึง อาจจะไม่สมบูรณ์แบบหากตอนเที่ยงเราไม่ได้กินข้าวกับเพื่อนสนิทที่ทำงาน บางครั้งถ้าเราไปทำงานคนเดียวเวลาพักผ่อนไม่รู้จะอยู่กับใครก็อาจจะทำให้การทำงานวันนั้นอ้างว้างและเหนื่อยง่ายกว่าปกติ การมีเพื่อนในยามพัก จะยิ่งทำให้การพักนั้นได้พักอย่างเต็มที่มากขึ้นนั่นเอง เพื่อนจะเข้าใจในงานที่เราทำอยู่ – เพราะเราเจอชะตากรรมแบบเดียวกัน เพื่อนสนิทในที่ทำงานคนนี้จึงเข้าใจเรามากกว่าเพื่อนที่ไม่ได้ทำงานที่เดียวกัน เพราะฉะนั้นอย่างน้อยการมีเพื่อนสนิทในที่ทำงาน เราก็จะมีคนที่เข้าใจเราแน่ๆ แล้วก็มีคนที่สามารถให้คำปรึกษาที่ดี และรับฟังเราได้อย่างถูกจุด ไม่ว่าเราจะอยู่ไหนก็ตาม บางครั้งการอยู่คนเดียวก็อาจจะทำให้เราลำบาก กว่าการมีเพื่อนสนิทที่รู้ใจกันสักคนมาอยู่ด้วย เพราะฉะนั้น หากต้องการพนักงานที่เก่ง มีคุณภาพ […]
5 วิธี เปลี่ยนแนวคิดเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น

สุดท้ายแล้ว “การลาออก” อาจเป็นได้ทั้งหนทางดับทุกข์และสร้างทุกข์ได้ไม่ต่างกัน ค่อย ๆ คิดและไตร่ตรองอย่างช้า ๆ ของแบบนี้เปลี่ยนแค่วิธีคิดบางอย่าง ก็พาคุณออกจากจากวังวนความคิดเหล่านี้ได้ เพื่อชีวิตที่ดีกว่าเดิม ลองปรับวิธีคิดไปพร้อม ๆ กัน อย่ากลัวที่จะล้มเหลว ความล้มเหลวเป็นเรื่องที่น่ากลัวมันอาจจะเจ็บปวดและน่าอาย หลายครั้งทำให้เราต้องการที่จะยอมแพ้ แต่แม้แต่คนที่เก่งที่สุด ประสบความสำเร็จที่สุด ก็ยังผิดพลาดได้ และก็ต้องเผชิญกับการถูกปฏิเสธเช่นกัน มองหาการเปลี่ยนแปลง เพื่อที่จะปลดล็อคตัวเองจากการติดอยู่ที่ตำแหน่งเดิม คุณต้องกล้าที่จะสำรวจสิ่งใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นการสมัครตำแหน่งหน้าที่ใหม่หรือ แม้กระทั่งการลาออกไปทำสายงานใหม่ มันอาจจะรู้สึกไม่ปกติในช่วงแรก แต่มันก็อาจจะเป็นสิ่งที่คุณกำลังมองหาอยู่และทำให้มีชีวิตชีวา อย่าหยุดเรียนรู้ งานวิจัยแสดงสถิติ ว่า 85% ของคนที่ประสบความสำเร็จ จะอ่านหนังสือเกี่ยวกับการพัฒนาตัวเองหรือการศึกษาสองเล่มหรือมากกว่านั้นต่อเดือน ต่างจากขั้วความคิดตรงข้ามที่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าไหร่ มักจะอ่านในสิ่งที่เป็นความบันเทิง เปิดรับคำวิจารณ์ คนที่ต้องการจะเติบโตให้คุณค่ากับคำวิจารณ์และข้อเสนอแนะพวกเขาไม่วิ่งหนีจากการตัดสินหรือการวิพากษ์วิจารณ์เพราะว่าพวกเขาจะนำมันไปใช้เป็นเครื่องมือในการเรียนรู้ หมั่นท้าทายข้อจำกัดของตัวเองอยู่เสมอ อย่าคิดว่าคุณทำได้เพียงเท่านี้ ผลักดันตัวคุณเองไปไกลยิ่งขึ้นคุณอาจจะแปลกใจเมื่อพบว่าคุณสามารถทำอะไรได้บ้างลองเริ่มต้นสักหนึ่งหรือสองทฤษฎีดูก่อนได้ เข้าใจดีว่าการเริ่มต้นคือสิ่งที่ยาก ค่อย ๆ ก้าวออกจาก Comfort Zone ให้ตัวเองเจอโอกาสดี ๆ อีกมากมายที่รอคุณอยู่ ใน Genz Manpower มีบริการสรรหาพนักงานที่จะทำให้คุณได้พนักงานที่ตรงใจ และมีคุณภาพอ่านต่อที่ : https://genzmanpower.com/ หากต้องการสรรหาพนักงานที่ตรงใจ ติดต่อหาเรานะคะ หากสนใจสามารถติดต่อได้ที่ 098-2872450 094-9486465LINE: @GenZmanpower
Perfectionism “มนุษย์เป๊ะเว่อร์”มีประโยชน์กับองค์กรอย่างไร มาดูกัน

“Perfectionist” คือ คำที่ใช้เรียกคนที่พยายามทำให้ผลงานออกมาสมบูรณ์แบบมากที่สุด หรือ เรียกง่าย ๆ ว่าอยากให้ทุกอย่างออกมาดู “เพอร์เฟกต์” ที่สุด มาดูกันว่าองค์กรจะได้ประโยชน์อะไรจากการมีพนักงานที่เป็น Perfectionist กันบ้าง มีผลงานที่ยอดเยี่ยม คนที่เป็น Perfectionist ทั้งหลายมักจะเป็นคนที่ตั้งเป้าหมายสูง มีความมุ่งมั่นอย่างมากที่จะทำให้สำเร็จ และก็มักจะสำเร็จออกมาเป็นอย่างดีซะด้วย งานเสร็จทันเวลาที่กำหนด คนที่เป็น Perfectionist มักมาพร้อมความรับผิดชอบสูงมาก Deadline คือ Deadline เมื่อถึงเวลางานต้องเสร็จ สร้างสรรค์นวัตกรรมชั้นยอด คนที่มีลักษณะ Perfectionism จะสามารถสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่สามารถเปลี่ยนโลก หรือเปลี่ยนองค์กรไปเลยก็ได้ เพราะพวกเขาเหล่านี้จะมีโฟกัสสูงมาก ตั้งใจทำอะไรแล้วทำจริงแบบกัดไม่ปล่อย เป็นผู้นำชั้นดี นอกจากจะมีมาตรฐานสูงแล้ว Perfectionist ยังจะเป็นพวกนักพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง เพราะชอบกำหนดเป้าหมายแล้วต้องทำให้ได้ เมื่อสำเร็จแล้วก็จะกำหนดเป้าหมายต่อไป บุคลิกดี “เป๊ะ” ทุกสถานการณ์ เพราะว่าเป็นคนมีวินัยและมาตรฐานสูง ชาว Perfectionist เลยมักไม่ค่อยปล่อยตัวให้ดูไม่ดี เรียกได้ว่าเสื้อผ้าหน้าผมต้องเป๊ะอยู่เสมอ บวกกับบุคลิกภาพที่ดูมั่นใจแล้ว สิ่งเหล่านี้ล้วนช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กรเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่าบริษัทไหนมีพนักงาน Perfectionist ย่อมจะได้ประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อมมากมายแน่นอน หากต้องการพนักงานที่เก่ง […]
สิ่งที่ ‘หัวหน้า’ ไม่ควรทำกับลูกน้อง

1.คิดว่าตัวเองเป็นหัวหน้าที่ยอดเยี่ยมแล้ว เพราะคนที่คิดว่าตัวเองเก่ง มี “อีโก้” จนไม่มีใครหักล้างได้ มักจะหยุดพัฒนาตัวเอง ไม่รับฟังผู้อื่น และคนคงเบื่อหน่ายจะพูดคุยด้วย 2. มุ่งหาคนรับผิดอย่างเดียว เมื่องานมีปัญหา การหาสาเหตุความผิดพลาดเป็นเรื่องที่ควรทำ แต่ไม่ใช่มุ่งหาคนรับผิดเพื่อกล่าวโทษเขาอย่างด่วนตัดสิน ความผิดพลาดหลายอย่างเกิดขึ้นจากหลายปัจจัยและอาจเป็นที่ระบบ สิ่งที่ทำได้คือแนะนำแก้ไขเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดในครั้งต่อไป มากกว่าการดุด่าตำหนิอย่างเดียว 3.ใจดีเกินไป เพราะอยากหลีกเลี่ยงความไม่พอใจในทีม ความใจดีช่วยสร้างบรรยากาศอันดี แต่ในขณะเดียวกันมันก็อาจกลบปัญหาไว้ให้เป็นฝุ่นใต้พรมเพราะเกรงกลัวว่าจะกระทบความรู้สึกเกินไป เรื่องบางเรื่องควรหยิบออกมาพูดคุยกันตรง ๆ หากหลีกเลี่ยงแต่เพียงอย่างเดียวอาจเกิดการสะสมความไม่พอใจและกลายเป็นเรื่องใหญ่ในภายหลัง 4. หวังให้ลูกน้องอ่านใจคุณออกเลย ไม่บอกสิ่งที่ต้องการตรง ๆ หัวหน้าหลายคนมักคาดหวังให้ลูกน้องที่ทำงานด้วยกันมานานอ่านใจออก แต่หลายครั้งกลับเกิดความเข้าใจผิดขึ้น เพราะขาดการสื่อสารที่จำเป็น แม้คุ้นเคยกันมานาน แต่บางทีหัวหน้าอาจต้องให้เวลาอธิบายรายละเอียดและปรับความเข้าใจให้ตรงกัน เพราะไม่มีใครเข้าใจคุณได้ตลอดเวลา 5.แสดงออกชัดเจนว่าชอบพนักงานคนใดคนหนึ่งมากเป็นพิเศษ และไม่เท่าเทียมต่อคนอื่น ไม่แปลกถ้าคุณจะรู้สึกชอบพนักงานคนใดคนหนึ่งมากเป็นพิเศษจากสิ่งที่เขาทำ แต่ควรพึงระวังไม่ให้การแสดงออกนั้นชัดเสียจนเกินไปและปฏิบัติอย่างไม่เท่าเทียมต่อผู้อื่นที่อยู่ในสถานการณ์คล้ายกัน การปฏิบัติอย่างไม่เท่าเทียมแบบเห็นชัดจะทำให้คนรู้สึกว่าไม่ได้รับความสำคัญ ไม่ยุติธรรมและส่งผลต่อวัฒนธรรมของทีม ยิ่งไปกว่านั้นคือเกิดปัญหาการเมืองในที่ทำงาน แทนที่จะได้เอาเวลาไปโฟกัสกับเรื่องงาน หากต้องการพนังานที่ตรงใจ ทำงานเก่ง และมีคุณภาพ ให้ Genz Manpower เป็นตัวช่วยในการสรรหาพนักงานของคุณนะคะ อ่านต่อที่ : https://genzmanpower.com/ เครดิต : HR Thailand […]
Soft Skill ที่คนเป็นหัวหน้าจำเป็นต้องมี

นอกจากทักษะทางการทำงาน (Hard Skill) จะจำเป็นสำหรับคนที่เป็นหัวหน้าแล้ว ทักษะด้านอื่น ๆ หรือ Soft Skill ก็สำคัญมากเหมือนกัน เราลองมาดูกัน ทักษะด้านการสื่อสาร (Communication) คนที่เป็นหัวหน้าควรจะต้องสื่อสารให้คนในทีมหรือคนทีมอื่น ๆ เข้าใจ โดยการสื่อสารที่ดีควรที่จะมีความกระจ่าง เข้าใจง่าย ตรงไปตรงมาแต่สามารถรักษาน้ำใจของคนอื่นเอาไว้ได้ ความเห็นอกเห็นใจ (Empathy) หัวหน้าต้องมีความเด็ดขาดนั่นคือสิ่งที่ถูกต้องอยู่แล้ว แต่ถ้าเรากลายเป็นหัวหน้าที่เด็ดขาดอย่างเดียวไม่มีความเข้าอกเข้าใจคนในทีมก็คงทำให้ทำงานได้ยาก และเกิดปัญหาได้ง่าย ความฉลาดทางอารมณ์ (Emotional Intelligence) หัวหน้าที่ดีไม่ควรเป็นคนเจ้าอารมณ์ เราควรจะมีทักษะที่จะเข้าใจอารมณ์ของตัวเองและจัดการกับมันให้ได้ในทุกสถานการณ์ ทักษะด้านการปรับตัว (Adaptability) หัวหน้าจะต้องเจองานหรือสถานการณ์การทำงานหลากหลายรูปแบบ เพราะฉะนั้นการปรับตัวให้ดีจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า (Problem-solving) หัวหน้าคือคนที่ต้องชักจูงคนในทีม สร้างความเชื่อมั่น และมีความน่าเชื่อถือ อย่างหนึ่งที่จะวัดส่วนนี้ได้คือทักษะการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าที่เฉียบคม และมีไหวพริบที่ดี การบริหารจัดการเวลา (Time Management) หัวหน้าจะต้องเข้าใจการแบ่งเวลาการทำงานเป็นอย่างดี สามารถวางแผนจัดการงานต่าง ๆ ออกมาได้ โดยคำนึงถึงเวลาที่มี และใช้มันให้เกิดประโยชน์สูงสุด สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้คนในทีม (Motivation and Inspiration) เป็นคนที่มีแรงผลักดันในการทำงานสูง และมีแรงบันดาลใจในการทำงานอยู่เสมอ […]